ต้มยำกุ้ง
ภาพยนตร์แนวต่อสู้เจ้าของวลีเด็ดช้างกูอยู่ไหน

ต้องยอมรับว่าในช่วงประมาณเกือบ 20 ปีที่แล้วนั้นภาพยนตร์ไทยนับว่าเป็น SOFT POWER ที่ได้เผยแพร่วัฒนธรรมและวิถีชีวิตความเป็นไทยออกไปสู่ทั่วทั้งโลกได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ยิ่งภาพยนตร์เรื่องไหนที่มีนักแสดงชื่อดังอย่าง "จา พนม" ด้วยแล้วภาพยนตร์เรื่องนั้นยิ่งได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมไปอีก

อย่างเช่นภาพยนตร์ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้นั่นก็คือ "ต้มยำกุ้ง" นั่นเอง มันเป็นภาพยนตร์แนวต่อสู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนทำให้วลีเด็ดอย่าง "ช้างกูอยู่ไหน" ยังคงถูกใช้มาจนถึงในปัจจุบัน และมันยังเป็นสิ่งที่ทำให้ชาวต่างชาติเข้าใจผิดอีกด้วยว่าปัจจุบันคนไทยก็ยังคงสัญจรไปมากันโดยใช้ช้างเป็นพาหนะ

ต้องยอมรับว่าเป็นการนำเสนอที่สุดยอดเป็นอย่างมาก จนถึงตอนนี้หากไม่นับเรื่ององค์บากก็คงไม่มีภาพยนตร์แนวต่อสู้เรื่องไหนในประเทศไทยที่สามารถเทียบเคียงบารมีของภาพยนตร์เรื่องนี้ได้เลย โดยตัวภาพยนตร์จะเล่าถึงเรื่องราวของชายหนุ่มคนหนึ่งที่มีชื่อว่า "ขาม"

เขาเป็นเด็กบ้านป่าที่ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติอย่างสงบสุขมาโดยตลอด แต่แล้วในวันหนึ่งชะตาชีวิตของเขาก็ต้องพลิกผ่านเมื่อมีผู้มีอิทธิพลระดับประเทศได้ทำการลักพาตัวช้างพลาย 2 พ่อลูกไป ด้วยเหตุนี้เขาและพ่อที่รักช้างทั้งสองเชือกนั้นอย่างสุดชีวิตจึงได้ตัดสินใจออกเดินทางตามหาช้างกลับคืนมาให้สำเร็จเพราะพวกเขานั้นมีเป้าหมายสูงสุดในชีวิตก็คือการมอบช้างให้เป็นคชบาทกับในหลวง แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาพยายามเท่าไหร่มันก็ยิ่งสิ้นหวังมากขึ้นเท่านั้นเพราะตอนนี้ช้างทั้งสองเชือกถูกส่งขายไปยังประเทศออสเตรเลียไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดังนั้นเพื่อช่วยเหลือช้างที่พวกเขารักและรักษาชีวิตของมันเอาไว้ให้สำเร็จสิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ก็คือออกตามล่าเดินทางไปจนถึงประเทศออสเตรเลียกันเลยทีเดียว ทั้งสองพ่อลูกได้รับความช่วยเหลือจากนายตำรวจไทยอย่างจ่ามาร์คและสาวไทยอย่างปลาที่ถูกหลอกให้มาขายตัวในเมืองหลวงของออสเตรเลียอย่างซิดนีย์ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังคงเป็นเรื่องยากอยู่ดีเพราะศัตรูของเขาในครั้งนี้เป็นแก๊งมาเฟียที่นำมาโดยมาดามโรสพร้อมกับลูกสมุนมากมายที่มีฝีมือการต่อสู้ อย่างไรก็ตามทั้งสองพ่อลูกไม่ได้ถอดใจแต่อย่างใด เพื่อเอาชีวิตรอดและทวงคืนช้างกลับมาให้สำเร็จพวกเขาจึงตัดสินใจที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งใหญ่ในชีวิตและทำให้ทั่วทั้งโลกได้ประจักษ์กับอนุภาคความร้ายกาจของแม่ไม้มวยไทยที่ทั้งรุนแรงและหนักหน่วงแบบที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัสมาก่อน

ต้มยำกุ้งนั้นเป็นภาพยนตร์ที่สามารถนำเสนอวิถีชีวิตและความเป็นอยู่ของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังเป็นภาพยนตร์ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวการต่อสู้ด้วยแม่ไม้มวยไทยโบราณออกมาได้อย่างเข้มข้นถึงใจ งานภาพที่นำเสนอออกมานั้นก็มีความสวยงาม ซึ่งไม่น่าแปลกใจอะไรหากเราได้รู้ว่าใครเป็นผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้

เขาผู้นั้นก็คือปรัชญา ปิ่นแก้วผู้กำกับมือดีประจำประเทศไทยของเรานั่นเอง ภาพยนตร์ดังกล่าวออกฉายครั้งแรกในช่วงเดือนสิงหาคมในปี 2548 ถึงแม้ว่าคนไทยจะชื่นชอบการรับชมภาพยนตร์แนวโรแมนติก คอมเมดี้ หรือสยองขวัญมากแค่ไหนก็ตาม แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้กลับสามารถทำลายได้ได้อย่างถล่มทลายร่วม 200 ล้านเลยทีเดียว ภาพยนตร์เรื่องนี้ดังไกลไปทั่วทั้งโลกและมันก็กลายมาเป็นสิ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติสนใจที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสกับวัฒนธรรมความเป็นอยู่ในประเทศไทยเหมือนกับที่พวกเขาเคยเห็นในภาพยนตร์นั่นเอง

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้สามารถสร้างความประทับใจได้เป็นอย่างดีก็เกิดจากการนำเอาเรื่องช้างมาเล่า เมื่อไหร่ก็ตามที่มีสัตว์อยู่ในภาพยนตร์มันมักจะสามารถสร้างความรู้สึกร่วมให้กับผู้รับชมได้เป็นอย่างดีเช่นเดียวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่เรานั้นนอกจากจะเอาใจช่วยตัวละครที่เป็นมนุษย์แล้วก็ยังรู้สึกพยายามเอาใจช่วยช้างให้พวกเขาอยู่รอดปลอดภัยจนจบเรื่องอีกด้วยเช่นเดียวกัน
.jpg)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น