The Takedown
The Takedown (เดอะเทคดาวน์) หนังแอ็กชันติดตลกจากประเทศฝรั่งเศส
ผู้กำกับ : Mandla Dube
แนว : ตลก , แอ็กชัน , สืบสวนสอบสวน
วันที่ฉาย : 6 พฤษภาคม 2022
ระบบเสียง : เสียงไทยและบรรยายไทย
ช่องทางการรับชม : Netflix
คะแนน : 6.5/10
"The Takedown" (เดอะเทคดาวน์) หนังแอ็กชันติดตลกจากประเทศฝรั่งเศส บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า
เรื่องราวทั้งหมดจะติดตามสองตัวละครหลัก ตำรวจที่เคยเป็นเพื่อนกันสมัยวัยรุ่น แต่ไม่ได้คุยกันมานาน เปิดเรื่องมาที่สารวัตร "Ousmane Diakité" (รับบทโดย Omar Sy) ตำรวจผิวดำที่มักโดนเหยียดแต่เขาก็ยังคงยืนหยัดและต่อสู้เพื่อความถูกต้อง อยู่มาวันหนึ่งเขาต้องมาสืบคดีฆาตกรรมปริศนาที่สถานีรถไฟ ปรากฎว่ามีตำรวจอีกคนที่มาสืบคดีนี้เช่นกัน
นั่นคือ "François Monge" (รับบทโดย Laurent Lafitte) เพื่อนเก่าที่เคยบาดหมางกันในอดีต แต่สุดท้ายทั้งคู่ต้องมาช่วยกันสืบคดีด้วยกัน ซึ่งทั้งสองนิสัยต่างกันสุดขั้ว ระหว่างการสืบคดีก็ต้องเจอกับเรื่องราววุ่น ๆ แสนวายป่วง ตลกโปกฮา สุดท้ายแล้วบทสรุปของคู่หูคู่ฮานี้จะเป็นอย่างไร ทุกคนต้องไปรับชมด้วยตาตัวเอง "The Takedown" (เดอะเทคดาวน์) สามารถรับชมได้แล้วตอนนี้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix
บทของเรื่องนี้ก็ไม่ได้แปลกใหม่หรือน่าสนใจอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ได้แย่ซะทีเดียว ให้อธิบายง่ายๆก็คือ หนังตลกสูตรสำเร็จที่ดูได้สนุกเพลินๆ เรื่องราวก็น่าติดตามพอตัว มีมุกตลกแอบแทรกอยู่ตลอดทั้งเรื่อง เพื่อให้ผู้ชมไม่เบื่อ แถมในบางฉากยังมีการพูดถึงเรื่องการเหยียดผิวด้วย ซึ่งถือว่าดี โดยรวมแล้วก็ทำได้ดีตามมาตรฐานทั่วไป ต่อไปด้านการดำเนินเรื่อง ในส่วนนี้ถือว่าทำได้ดี ดำเนินเรื่องรวดเร็ว กระชับ เข้าใจง่าย ในส่วนนี้ทำได้ดีแล้ว ไม่มีอะไรจะติมากมาย
มาที่เรื่องการแสดงกันก่อน ในส่วนนี้ถือว่าทำธรรมดาทั่วไปมากๆ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ ก็ตามสไตบ์หนังแนวนี้ ไม่ต้องใช้เทคนิคการแสดงอะไรมากมาย แต่ส่วนตัวผมค่อนข้างชอบการแสดงของ "Laurent Lafitte" ที่รับบทเป็นคู่หูพระเอก สายชิว สายฮา คนนี้แสดงดีอยู่ ปั่นดี แต่บางฉากก็มีมุขแป๊กไม่ค่อยฮาเหมือนกัน แต่โดยรวมแล้วดี ส่วนการแสดงของ "Omar Sy" พระเอกของเรื่อง คนนี้ก็แสดงเหมือนเดิมเลย
เหมือนในซีรีส์ "Lupin" แบบเดียวกันเป๊ะ หน้านิ่งๆ ลุคเงียบๆหน่อย ส่วนนักแสดงคนอื่นๆก็ทั่วไป แสดงได้ตามมาตรฐานของหนังแนวนี้ ต่อมาด้านการออกแบบตัวละคร ด้านนี้ถือว่าทั่วไป ผมชอบแค่ตัวละครคู่หูพระเอก ตัวละครนี้ออกแบบมาดี เป็นตัวปั่นตัวโจ๊ก มาคู่กับพระเอกที่เงียบหน่อย แต่ก็ติดฮา ก็ถือว่าทำได้ดี
ในด้านงานภาพนั้น ถือว่าทำได้ดีมากสำหรับหนังแนวนี้ เรื่องนี้น่าจะทุนสร้างเยอะพอสมควร เพราะงานภาพออกมาสวยเลย มุมกล้องดี จัดแสงได้ดี โทนสีที่ใช้ก็ดี สีสันสดใส ทำให้บรรยากาศในหนังดูเป็นมิตรมากขึ้น แต่มันเจ๋งตรงที่บางฉากมันก็มีความสยองขวัญและติดเรท แต่สีสันของภาพกลับสดใสสวนทางกัน ส่วนนี้ผมชอบมากๆ ต่อมาส่วนสุดท้าย ด้านการโปรดักชั่นต่างๆ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมตัวละคร
เทคนิคพิเศษ CGI เพลงประกอบ การตัดต่อ การลำดับเสียง ในส่วนนี้ผมไม่มีอะไรจะติเลย งานโปรดักชั่นของหนังเรื่องนี้แจ่มมากๆ และถือเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้เลย คือมันอลังการเกินว่าหนังแอ็กชัน-คอมเมดี้ทั่วไป ส่วนนี้ไม่มีอะไรจะติจริงๆ ทำได้ดีมากแล้ว
หลังจากรีวิวมาซะยาว ผมขอมาสรุปภาพรวมอีกที โดยรวมแล้วจากความรู้สึกส่วนตัวของผม ผมมองว่าหนังเรื่องนี้ถือเป็นหนัง แอ็กชัน-คอมเมดี้ ที่ดูได้เพลินๆ มีฉากตลก และปั่นๆ หลายฉาก งานโปรดักชั่นก็ดี เรื่องราวแม้ว่าจะไม่ได้น่าติดตามอะไรมากมาย แต่ก็ไม่ได้แย่ถึงขนาดน่าเบื่อ คือดูไปได้เรื่อยๆจนจบเรื่อง
หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ว่างๆ อยากหาหนังตลกๆดูแก้เบื่อในวันหยุด ผมแนะนำให้ลองไปดูเรื่องนี้กันได้ มีพากย์ไทยด้วย ดูได้ทุกคน แต่ไม่อาจทุกเพศทุกวัย เพราะมีฉากติดเรทเยอะอยู่พอสมควร ท้ายสุดนี้ผมขอให้คะแนน "The Takedown" ไว้ที่ 6.5/10 คะแนน
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : รีวิวหนัง
ติดตามเนื้อเรื่องอื่น ๆ : รีวิวหนังภาพยนต์
อ่านเพิ่มเติม : รีวิวหนังดัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น