The Last 10 Years : สุดท้ายและตลอดไป
ผู้กำกับ: มิจิฮิโตะ ฟูจิอิ
นำแสดงโดย: นานะ โคมัตสึ, เคนทาโร่ ซาคากุจิ
ความยาว: 124 นาที
กำหนดฉายในไทย: 2 มิถุนายน 2022 (ในโรงภาพยนตร์) [เปิดฉายรอบพิเศษตั้งแต่ 28 พฤษภาคม เป็นต้นไป]
หนังเรื่องนี้เป็นการดัดแปลงมาจากนิยายกึ่งบันทึกที่มียอดขายดีติดชาร์ต ที่มีชื่อหนังสือแบบเดียวกันหนังเป๊ะ ๆ เป็นผลงานของ "รุกะ โคซากะ" ที่ได้เล่าเรื่องราวที่มาจากประสบการณ์ชีวิตของเธอเอง ในช่วงเวลา 10 ปีสุดท้ายที่เธอมีโอกาสที่จะได้มองเห็นและใช้ชีวิตไปกับโลกใบนี้ โดยได้มือเขียนบทชั้นครู "โยชิคาซุ โอคาดะ" ที่เคยเขียนบทหนังซึ้ง ๆ อย่าง The 8-Year Engagement หรือ If Cats Disappeared From the World มาก่อน และถือว่าเรื่องนี้ตีความออกมาได้น่าสนใจ
โดย "The Last 10 Years" ยังได้ผู้กำกับหนุ่มไฟแรง "มิจิฮิโตะ ฟูจิอิ" (จาก The Journalist) มาดูแลงานสร้างให้ และถือว่าเขาเป็นกองกำลังหนังที่สามารถขับเคลื่อนหนังที่มีความเป็นเมโลดราม่าโรแมนซ์เรียกน้ำตาธรรมดา ๆ เรื่องหนึ่ง กับความพยายามฉีกตัวออกไปอีกทางที่ใส่กิมมิกและชั้นเชิงในการเล่าเรื่องได้อย่างกัดกินใจ กลั่นออกมาเป็นหนังรักที่มีปลายที่แสนเศร้า แต่กลับไม่เร่งเร้าคั้นน้ำตาจากผู้ชมอย่างโจ่งแจ้งสักเท่าไหร่
การออกแบบมิติของตัวละครใน "The Last 10 Years" ถือว่าทำการบ้านมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ การดีไซน์แนวความคิดและความรู้สึกของคนสองคนที่ต่างเผชิญหน้ากับปัญหาที่ต่างกัน แต่กลับมีความคิดไปในทิศทางเดียวกัน กลายเป็นจุดที่ปรับจูนคนทั้งคู่ให้ผสานเข้าหากันได้อย่างอัศจรรย์ คนหนึ่งที่พยายามดิ้นรนที่จะมีชีวิตต่อแต่ก็เหมือนมีชีวิตแบบนาฬิกานับถอยหลัง ส่วนอีกคนที่ยังมีโอกาสไปต่อได้ทุกทางแต่เลือกที่จะพยายามโกงชีวิตตัวเองกับการดับสิ้นไปกลางทาง
แม้ว่าจะยอมรับโดยส่วนตัวจริง ๆ ว่า ค่อนข้างมีความคาดหวังว่า "The Last 10 Years" จะทำปฏิกิริยากับต่อมน้ำตาได้ตลอดทั้งเรื่อง แต่อาจจะเป็นการคาดหวังที่มากไปสักหน่อย เพราะผลลัพธ์ที่ออกมานั้นค่อนข้างวิเศษ หนังไม่ได้พยายามบังคับให้คนดูร้องไห้ ด้วยการใส่ฉากและบทซึ้งเข้ามาเรียกน้ำตา แต่การถ่ายทอดในหนังอาจจะทำได้แค่รู้สึกน้ำตาซึม ๆ ปริ่ม ๆ แบบไม่ฟูมฟาย ปฏิกิริยาเหล่านั้นที่เกิดขึ้นในหนังเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะปลายทางของตัวละคร แต่กลับเป็นความหมายของการที่ยังมีลมหายใจอยู่ต่างหาก
อย่างที่บอกไปแล้วว่า ทันทีที่ได้ยินว่า
"นานะ โคมัตสึ" กับ "เคนทาโร่ ซาคากุจิ" โคจรมาประกบคู่กัน
ช่างเป็นเคมีนักแสดงที่น่าสนใจดีแท้ ๆ
แม้ว่าหนังเรื่องนี้บทบาทของทั้งคู่จะค่อนข้างรันทน
ไม่แทบจะไม่ได้มีฉากหวานซึ้งอะไรกันสักเท่าไหร่เลย
แต่ทั้งคู่ก็สามารถแบกรับบทบาทของตัวเองได้อย่างเป็นมืออาชีพ และประคับประคองหนังเรื่องนี้ได้อยู่หมัด
ในลักษณะแอคติ้งที่น้อยแต่มากและกัดกินใจเสียเหลือเกิน
ไม่แค่เพียงคู่นักแสดงนำเท่านั้นที่เป็นสิ่งดีงามของเรื่อง นักแสดงสมทบคนอื่น ๆ ก็ถือว่าเป็นอีกไฮไลต์ที่หนังเกลี่ยบทและกระจายความสำคัญได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะตัวละครทางฝั่งครอบครัวมัตสึริ ที่ได้รุ่นใหญ่ยอดฝีมือ อย่าง "ฮิเดโกะ ฮาระ" กับ "ยูทากะ มัตสึชิเกะ" มาถ่ายทอดอารมณ์แบบขั้นสุด (สารภาพว่าฉากของพวกเขา...ทำให้ต่อมน้ำตาทำงาน) อีกทั้งยังมีตำนาน "ลิลี่ แฟรงกี้" มาร่วมแสดงในหนังกับบทพูดน้อยต่อยหนักไม่เบา
"The Last 10 Years" ยังมาพร้อมกับงานโปรดักชั่นและการดีไซน์มุมภาพของหนังที่ค่อนข้างละมุนละไมไหลลื่นดี ชอบการที่สามารถเล่าเรื่องราวผ่านฤดูกาลต่าง ๆ ทั้ง 4 ฤดูได้อย่างแยบยล โดยการใช้แสงธรรมชาติและแวดล้อมธรรมชาติมาเป็นการสื่อกลางในการถ่ายทอดอารมณ์ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ใช่ว่าหนังจะไม่มีจุดด้อยเลย หนังยังเต็มไปด้วยความคลีเช่แบบเดิม ๆ การเล่าเรื่องอาจจะยังไม่ค่อยกลมกล่อมเท่าไหร่ ใส่ความเป็นหนังรักญี่ปุ่นที่เคยเห็นมาแล้วซ้ำ ๆ เข้ามาอยู่บ้าง แต่กระนั้นก็ยังเป็นจุดที่พอถูไถดูไดเพลิน ๆ อยู่
เอาเป็นว่าโดยภาพรวมนั้น "The Last 10 Years" อาจจะทำให้คนเจ้าน้ำตาเกิดปฏิกิริยากับต่อมน้ำตาได้ง่าย ๆ แต่ส่วนตัวคิดว่าหนังไม่ใช่หนังเรียกน้ำตาอะไรขนาดนั้น ยังมีกิมมิกอื่น ๆ ที่น่าค้นหามากกว่าเส้นเรื่องความรักและความเศร้าโศกในบานปลายของตัวละคร หนังสอดแทรกแง่คิดในการใช้ชีวิตที่ยังเหลืออยู่เอาไว้ให้คนดูกลับมาย้อนมาดูตัวเองได้แบบต่อยอด เคมีนักแสดงลงตัวและพลังการแสดงของทุก ๆ คนในเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น