Knives Out : ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่
หนังแนวสืบสวน
"Knives Out" ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่ เรื่องราวของปริศนาฆาตกรรมในครอบครัวมหาเศรษฐีหนึ่งที่ทุกคนมารวมตัวกันพร้อมหน้า เพื่อฉลองวันเกิดครบ 85 ปีของนักเขียนนิยายสืบสวนรุ่นใหญ่ แต่ดันเกิดเหตุไม่คาดฝัน เขาเสียชีวิตลงอย่างเป็นปริศนา งานนี้นักสืบมือดีจึงต้องเข้ามาคลี่คลายคดี และแน่นอนว่าทุกคนในบ้านกลายเป็นผู้ต้องสงสัย! ภายใต้ปาร์ตี้อันสนุกสนาน คำโกหกที่ถูกปกปิด ความจริงที่กำลังจะถูกเปิดเผย
หนังวางตัวเองไว้เลยว่าเป็นผลงานที่ได้แรงบันดาลใจจากนิยายฆาตกรรมของ “อกาธา คริสตี้” ล่าสุดที่ทำเป็นหนังคือ Murder
on the Orient Express ปี 2017 ที่ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จมาก แต่ด้วยความที่ผลงานของอกาธาแทบจะเป็นต้นแบบให้นิยายหรือหนังสืบสวนในยุคต่อมาแทบทั้งหมด ซึ่งโดยทั่วไปก็จะเป็นพล็อต “เปิดพินัยกรรม” ของครอบครัวมหาเศรษฐีที่มักพลิกโผทำให้ลูกหลานในตระกูลต้องช็อค ก่อนที่จะตามมาด้วยคดีฆาตกรรมในที่แห่งนั้น โดยทุกคนที่เกี่ยวข้องมีแรงจูงใจให้ก่อคดีได้ แต่ก็พร้อมยืนยันช่วงเวลาที่อยู่ของตัวเองว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกันทุกคน
ซึ่งอกาธาเดินเรื่องโดยมีปัวโรนักสืบจอมขี้เกียจแต่ฉลาดสุดๆ มาเป็นตัวนำทุกตอน ใน Knives Out ก็พยายามถอดแบบมาเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เป็นเรื่องราวใหม่ จึงพยายามโยงให้ตัวละครนักสืบ “บลังค์” ที่เล่นโดย “แดเนียล เครก” พระเอกเจมส์บอนด์คนล่าสุด มีเครดิตที่มาที่ไปอ้อมๆ ว่ามาจากคดีดังของ โอเจ ซิมป์สัน (ปี 1994) ที่เป็นคดีมีคนตาย…แต่ไร้คนทำ และก็กลายเป็นคดีประวัติศาสตร์ที่ปิดไม่ลงในแง่ความรู้สึกของคนที่ติดตามคดี
ซึ่งเมื่อนักสืบในเรื่องมีเครดิตว่าปิดคดีใหญ่นี้ได้ ก็เลยกลายเป็นเรื่องตลกร้ายเสียดสีความจริงของอเมริกาไป นอกไปจากนี้แล้วตัวละครบลังค์ก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่ไปกว่าแนวทางเดิมๆ ที่ต้องซุ่มเงียบ วิเคราะห์คดีจากคำให้การ หาช่องโหว่ของเวลายืนยันตัวมาจับผิดคนร้ายในตอนท้ายสุด ซึ่งหนังก็ถอดสูตรเดิมๆ มาทุกอย่าง แทบจะเรียกว่าทุกกระเบียดนิ้ว มีต่างออกไปแค่ผู้ชมไม่ต้องมาเดาความจริงหลังคำให้การ
พราะหนังเฉลยทันทีว่าเรื่องจริงเป็นไง ก่อนจะให้บลังค์ใช้สกิลนักสืบปะติดปะต่อเรื่องให้ไปตามความจริงที่หนังเผยบางส่วนให้เราดูก่อน แต่ถ้าใครดูหนังนักสืบแบบนี้มาบ่อยๆ ก็คงออกอาการเบื่อ ๆ พล็อตกับโครงเรื่องได้เหมือนกัน แถมหนังยืดยาวมากด้วยเวลาถึงสองชั่วโมงเต็มๆ กับการเดินเรื่องตามสูตรแบบเดิม ๆ นี้
การเซ็ทให้ตัวละครนางเอกของเรื่อง Marta
Cabrera (เล่นโดย Ana de Armas จากบท
Joi ใน Blade Runner 2049) พูดโกหกไม่ได้
ร่างกายจะคลื่นไส้จนอ๊วกออกมาในทันที
และเธอก็เป็นพยาบาลที่เหมือนคนรับใช้ของคุณปู่ประจำตระกูลมาช้านาน
จนเห็นเรื่องราวไม่ชอบมาพากลของคนในตระกูลนี้แทบทั้งหมด
ด้วยการวางคาแรคเตอร์ให้เธอดูตลกจากการอ๊วกนี่แหละ
หนังเรื่องนี้้จึงเต็มไปด้วยมุกตลก ความจริง vs เรื่องโกหก
แล้วใช้นางเอกมาเป็นตัวจับโกหกของเรื่องราวทั้งหมดผ่านการอ๊วกตั้งแต่แรกจนถึงช่วงท้ายของเรื่องราว
เรียกว่าเราจะได้เห็นเธออ๊วกแตกอย่างฮา ๆ ตลอดทุกมุก
สิ่งที่โดดเด่นอีกอย่างของเรื่องคือ
การได้ดารานำมีฝีมือมาร่วมแสดงอย่างคับคั่ง แต่หนังก็ไม่ได้มีบทแจกให้ทุกคนได้เล่นแสดงฝีมือมากมายอะไร
มีแค่เฉพาะตอนช่วงต้นที่เปิดมาเป็นการสอบสวนให้การที่ออกเยอะ
แต่ก็ไม่ได้มาแบบไม่คุ้ม
ถือว่าทุกคนมีบทเหมาะสมลงตัวในแบบตัวละครที่เป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ต้องมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปคนละแบบ
แต่ที่เด่นสุดก็คงเป็นคริส อีแวนส์ จากกับตันอเมริกา
มาเล่นเป็นบทหนุ่มเจ้าปัญหาที่ไม่ทำงานทำการเอาแต่สูบเงินของตระกูล
และก็ดูจะเป็นตัวละครที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยสุดในเรื่องตั้งแต่แรกๆ
หนังใช้คริสเล่นได้อย่างกรุ้มกริ่มมีเลศนัย
แต่ก็ดูเป็นคนดีในมุมที่หนังเปิดมาให้ดูอีกด้าน ถ้าใครชอบคริส อีแวนส์ก็ดูได้เลย
บทของเขายังคงร่ำรวยด้วยเสน่ห์ไม่แตกต่างกัน
โดยสรุปแล้ว ภาพยนตร์เรื่อง Knives Out - ฆาตกรรมหรรษา ใครฆ่าคุณปู่ เป็นภาพยนตร์สืบสวนที่มีเปี่ยมไปด้วยคุณภาพจำนวนมากที่เราไม่ได้เห็นในภาพยนตร์แนวนี้นาน แม้ภาพยนตร์จะมีการเล่าเรื่องผ่านการสนทนามหาศาล แต่ภาพยนตร์มีความเพลิดเพลินอยู่ในระดับสูงเช่นเดียวกับหนังแมสตามท้องตลาด การมี 4 สิ่งจุดแข็ง บทภาพยนตร์ การเล่าเรื่อง ดนตรีประกอบ และนักแสดง อยู่ในระดับยอดเยี่ยม ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้กลายเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ของผู้ชมหลายๆคน และยังช่วยบ่งบอกว่า Rian Johnson คือผู้กำกับที่น่าจับตามองแห่งยุคในระดับเดียวกับ Christopher Nolan อีกด้วย แม้จะมีข้อเสียในการเฉลยบทสรุปที่บางคนอาจจะมองว่าง่ายดายเกินไป แต่ก็ไม่สามารถลดทอนความยอดเยี่ยมของภาพยนตร์ได้เลยแม้แต่น้อย
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม : รีวิวหนัง
ติดตามเนื้อเรื่องอื่น ๆ : รีวิวหนังภาพยนต์
อ่านเพิ่มเติม : รีวิวหนังดัง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น